วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ดัชนีเดินหน้าหนึ่งพันห้าร้อยจุด

จากการพิจารณาภาพรวมหลาย ๆ ด้าน ผู้เขียนเห็นว่า SET INDEX  มีโอกาสเดินหน้าไปถึง  1,500 2,000 จุด  เนื่องจากปัจจัยหลายด้านดังนี้

1.ด้านเศรษฐกิจ ( Economics Factor)
แม้นว่า เศรษฐกิจต่างประเทศ อย่างยักษ์ใหญ่อเมริกา  หรือยุโรป จะประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจตกต่ำ ด้านการเงิน หรือฟองสบู่ อะไรก็ตาม  แต่ประเทศไทยไม่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจเลย  ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ ตลาดไทยน่าสนใจเป็นอย่างมากต่อนักลงทุนโลก  เราคงไม่เห็นบ่อยนักว่า ต่างประเทศแย่ แล้วประเทศเรายังดีอยู่ แต่มันก็เป็นไปแล้ว   ยิ่งภาคการผลิต ภาคการเกษตร ไทยยังเติบโตก้าวหน้าอยู่ เช่นนี้ ยิ่งทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ดูดีมีอนาคตไปเลยทีเดียว

2.ด้านการเมือง (Political Factor)
ดูไปแล้ว รัฐบาลคงอยู่ครบวาระซึ่งนั่นก็หมายความว่า ปีนี้ปัจจัยด้านการเมืองนิ่ง  ไม่มีผลกระทบใดใดต่อตลาดหุ้นไทย  หรือต่อให้มีความเคลื่อนไหวทางการเมือง  นักลงทุนก็มีภูมิคุ้มกันด้านการเมืองเรียบร้อยแล้ว  จึงไม่ส่งผลต่อตลาดโดยรวมสักเท่าใดนัก  บรรยากาศดีดีแบบนี้  ตลาดหุ้นก็คงไม่สนใจประเด็นนี้อีกต่อไป

3.ด้านตัวหุ้น (Products Factor)
ราคาหุ้นส่วนใหญ่ ร้อยละ 80  มีแนวโน้ม เติบโตสูงขึ้น ราคาหุ้นทำ new high หลาย ๆ ตัว  รวมถึง กลุ่มอุตสาหกรรมหลาย ๆ กลุ่ม ก็ปรับตัวสูงขึ้น สร้างสถิติใหม่อย่างที่ไม่เคยมี   และยังมีแนวโน้มว่า จะยังคงสร้างสถิติใหม่ได้อีก จนกว่าจะเกิดอาการอิ่มตัว  ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกพักใหญ่เลย  แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ตลาดพุ่งขึ้นไปอีกหลายร้อยจุด

4.ด้านตลาดหลักทรัพย์ (Market Factor)
ยังมีบริษัทจดทะเบียนอีกมาก ที่รอจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นไทย  แสดงให้เห็นว่า อัตราการเติบโตของตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มสูง  ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการลงทุนและทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง  เพราะบริษัทที่เข้ามาใหม่ ก็จะส่งผลทำให้ ดันดัชนีขึ้นไปเรื่อย ๆ   ตัวที่ไม่ไปก็หยุดอยู่  แต่ตัวใหม่ก็สร้างสถิติใหม่จนกว่าจะหมด  ซึ่งมันก็ยังไม่หมดเพราะรอเข้ามาจดทะเบียนกันอีกมาก  ทุนก็จะท่วม ล้นตลาด ทีเดียว

5.ด้านปัจจัยจิตวิทยาการลงทุน (Psychology Factor)
นักลงทุนเห็นดัชนี เดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ  ก็คาดหวังว่า การลงทุนคงจะดีกว่าการฝากเงินในธนาคาร  ยิ่งมีการขายเกิดขึ้นมากเท่าไหร่  โดยดัชนีก็ยังไม่ต่ำกว่า  1,000 จุด  ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ฐานตลาดทุนเข้มแข็ง และแข็งแกร่งอย่างมาก  เมื่อหมดแรงการขาย  ก็เหลือเพียงการขึ้นเท่านั้น  หากมีการขยับปรับฐานขึ้นไปอีก  นักลงทุนจะกล้าเพียงพอในการลงทุนเพื่อแสวงหากำไรใหม่ ๆ  แทนการเก็บเงินฝากธนาคาร

จะเห็นได้ว่า  ปัจจัยต่าง ๆ  เหล่านี้ ส่งเสริม สนับสนุนให้ตลาดโต และเติบใหญ่ ซึ่งก็ไม่ต่างจาก ตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก  การเติบโตก็เป็นแบบนี้เช่นกัน  ดังนั้น โอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะเป็นตลาดกระทิงขนาดใหญ่  ก็อยู่ไม่ไกลแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น