จากการพิจารณาภาพรวมหลาย ๆ ด้าน ผู้เขียนเห็นว่า SET INDEX มีโอกาสเดินหน้าไปถึง 1,500 – 2,000 จุด เนื่องจากปัจจัยหลายด้านดังนี้
1.ด้านเศรษฐกิจ ( Economics Factor)
แม้นว่า เศรษฐกิจต่างประเทศ อย่างยักษ์ใหญ่อเมริกา หรือยุโรป จะประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจตกต่ำ ด้านการเงิน หรือฟองสบู่ อะไรก็ตาม แต่ประเทศไทยไม่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจเลย ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ ตลาดไทยน่าสนใจเป็นอย่างมากต่อนักลงทุนโลก เราคงไม่เห็นบ่อยนักว่า ต่างประเทศแย่ แล้วประเทศเรายังดีอยู่ แต่มันก็เป็นไปแล้ว ยิ่งภาคการผลิต ภาคการเกษตร ไทยยังเติบโตก้าวหน้าอยู่ เช่นนี้ ยิ่งทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ดูดีมีอนาคตไปเลยทีเดียว
2.ด้านการเมือง (Political Factor)
ดูไปแล้ว รัฐบาลคงอยู่ครบวาระซึ่งนั่นก็หมายความว่า ปีนี้ปัจจัยด้านการเมืองนิ่ง ไม่มีผลกระทบใดใดต่อตลาดหุ้นไทย หรือต่อให้มีความเคลื่อนไหวทางการเมือง นักลงทุนก็มีภูมิคุ้มกันด้านการเมืองเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ส่งผลต่อตลาดโดยรวมสักเท่าใดนัก บรรยากาศดีดีแบบนี้ ตลาดหุ้นก็คงไม่สนใจประเด็นนี้อีกต่อไป
3.ด้านตัวหุ้น (Products Factor)
ราคาหุ้นส่วนใหญ่ ร้อยละ 80 มีแนวโน้ม เติบโตสูงขึ้น ราคาหุ้นทำ new high หลาย ๆ ตัว รวมถึง กลุ่มอุตสาหกรรมหลาย ๆ กลุ่ม ก็ปรับตัวสูงขึ้น สร้างสถิติใหม่อย่างที่ไม่เคยมี และยังมีแนวโน้มว่า จะยังคงสร้างสถิติใหม่ได้อีก จนกว่าจะเกิดอาการอิ่มตัว ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกพักใหญ่เลย แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ตลาดพุ่งขึ้นไปอีกหลายร้อยจุด
4.ด้านตลาดหลักทรัพย์ (Market Factor)
ยังมีบริษัทจดทะเบียนอีกมาก ที่รอจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นไทย แสดงให้เห็นว่า อัตราการเติบโตของตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มสูง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการลงทุนและทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะบริษัทที่เข้ามาใหม่ ก็จะส่งผลทำให้ ดันดัชนีขึ้นไปเรื่อย ๆ ตัวที่ไม่ไปก็หยุดอยู่ แต่ตัวใหม่ก็สร้างสถิติใหม่จนกว่าจะหมด ซึ่งมันก็ยังไม่หมดเพราะรอเข้ามาจดทะเบียนกันอีกมาก ทุนก็จะท่วม ล้นตลาด ทีเดียว
5.ด้านปัจจัยจิตวิทยาการลงทุน (Psychology Factor)
นักลงทุนเห็นดัชนี เดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ก็คาดหวังว่า การลงทุนคงจะดีกว่าการฝากเงินในธนาคาร ยิ่งมีการขายเกิดขึ้นมากเท่าไหร่ โดยดัชนีก็ยังไม่ต่ำกว่า 1,000 จุด ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ฐานตลาดทุนเข้มแข็ง และแข็งแกร่งอย่างมาก เมื่อหมดแรงการขาย ก็เหลือเพียงการขึ้นเท่านั้น หากมีการขยับปรับฐานขึ้นไปอีก นักลงทุนจะกล้าเพียงพอในการลงทุนเพื่อแสวงหากำไรใหม่ ๆ แทนการเก็บเงินฝากธนาคาร
จะเห็นได้ว่า ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ส่งเสริม สนับสนุนให้ตลาดโต และเติบใหญ่ ซึ่งก็ไม่ต่างจาก ตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก การเติบโตก็เป็นแบบนี้เช่นกัน ดังนั้น โอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะเป็นตลาดกระทิงขนาดใหญ่ ก็อยู่ไม่ไกลแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น