นักลงทุนควรจับตามองหุ้น SLC (Solution Corner 1998) คือ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์(1998) จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจเกี่ยวกับวางระบบซอฟท์แวร์ให้กับบริษัทต่าง ๆ อาทิ เช่น การไฟฟ้า การประปา หน่วยงานราชการ
งบไตรมาส 2 ปี 53 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 106 ล้านบาท หนี้สินรวม 90 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 16 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 50 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.10 บาท มูลค่าหุ้นทางบัญชี 0.03 บาท ราคาพาร์ 0.10 บาท ทุนจดทะเบียน 424 ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 303 ล้านบาท (ที่มา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
หุ้น SLC ได้มีการขายหุ้นเพิ่มทุนได้ทั้งสิ้นจำนวน 2,424,412,800 หุ้น คือประมาณ สองพันสี่ร้อยล้านหุ้น คิดเป็นเงินจำนวน ประมาณ 242 ล้านบาท แสดงว่า บริษัทฯ มีเงินสดในมืออยู่จำนวน สองร้อยกว่าล้าน หากมีขาดทุนสะสมหรือขาดสภาพคล่องอยู่ ปัญหาดังกล่าวจะหมดไปทันทีเพราะมีเงินสดเหลือเฟือแล้วในขณะนี้
แต่มีประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 2,424 ล้านหุ้นนี้ ราคาต้นทุนคือ 0.10 บาท ซึ่งราคาในกระดานปิดที่ 0.16 ก็มีส่วนต่างอยู่ถึง 0.06 บาท คิดเป็นกำไรส่วนเกินถึง 60 เปอร์เซ็นจากที่จองซื้อเพิ่มทุน ดังนั้น วันที่ 11 พย 53 ตลาดฯ อนุญาตให้ซื้อขายได้ อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นปริมาณมากได้ จนกว่าผู้เพิ่มทุนจะหยุดขายหรือคาดว่าหุ้นจะขึ้น จึงเก็บไว้ก่อนยังไม่ขาย เมื่อนั้น นักลงทุนที่ไม่มีหุ้นในมือ ถึงจะเข้าไปซื้อได้ และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ เพราะว่าบริษัทฯ มีเงินสดในมือมาก การทำธุรกรรมอื่นใด เป็นไปได้ง่าย การลงทุนเพื่อแสวงหากำไรเข้าบริษัทฯ ก็ทำได้ง่าย โครงการ โปรเจ็คใด ๆ ที่น่าจะลงทุนหรือทำกำไรให้ได้ บริษัทฯ มีศักยภาพพอที่จะลงทุนได้ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาเรื่องภาระหนี้สินของบริษัทฯ ด้วย ถ้าเป็นไปตามงบการเงินคือ บริษัทฯ มีภาระหนี้อยู่ 90 ล้านบาท หากชำระไปเลย ก็เท่ากับบริษัทฯ ปลอดภาระหนี้สินทันที ถือเป็นเรื่องดีของกิจการ
หากนักลงทุนสนใจเข้าซื้อหุ้นตัวนี้ ก็ต้องพิจารณาเรื่องเหล่านี้ และหาคำตอบให้เจอว่า บริษัทฯ น่าจะนำเงินไปลงทุนทำกำไรให้ได้อย่างไร เพราะเงินสดเต็มมือ เป็นสิ่งที่หลาย ๆ กิจการ ควรจะมีและพึงต้องมีด้วย เมื่อนำเงินเพิ่มทุนไปรวมในงบการเงิน ส่วนของผู้ถือหุ้นจะมีเป็น 258 ล้านบาททีเดียว งบการเงินในไตรมาสต่อไป จะดูดีมาก ทั้ง ๆ ที่บริษัทฯ ยังไม่ได้ดำเนินกิจการใด ๆ เลย
ดังนั้น นักลงทุนที่สนใจหุ้นตัวนี้ ก็ลองคิดพิจารณาสิ่งนี้ด้วยว่า จะเกิดผลดี ผลเสีย อย่างไรกับบริษัทฯ นี้ แต่อย่าลืมว่า ต้องเผชิญกับแรงเทขายจากต้นทุน 0.10 บาท ด้วยขนาดมหึมาด้วย หยุดขายเมื่อไหร่ ก็น่าสนใจทีเดียว หรือถ้ามีแรงซื้อขึ้นมา ก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น